"เปิดอก มั่นใจ ไร้สเตย์" จุดเริ่มต้นใหม่ของการเปลี่ยนแปลง

ร่างกายของคนเรานั้นเราไม่สามารถกำหนดขึ้นมาได้ว่าเราต้องการให้รูปลักษณะเป็นในแบบไหนที่เราต้องการ มันอาจจะทำให้เรารู้สึกมั่นใจในร่างกายของเราเองแต่ในหลายกรณี สำหรับบางคน ร่างกายกลับกลายเป็นข้อจำกัดทางจิตใจและความรู้สึกที่ส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อการใช้ชีวิตประจำวัน

การตัดหน้าอก หรือที่เรียกกันว่า Top Surgery จึงไม่ใช่เพียงแค่การผ่าตัดเพื่อเปลี่ยนรูปลักษณ์ภายนอก แต่เป็นการสร้างความรู้สึกเป็นเจ้าของร่างกายของตัวเองอย่างแท้จริง สำหรับคนที่เกิดมาพร้อมกับร่างกายที่ไม่สอดคล้องกับอัตลักษณ์ทางเพศ การตัดหน้าอกอาจเป็นการเปิดประตูสู่การหายใจโล่งครั้งแรกในชีวิต เป็นจุดเริ่มต้นของการยอมรับตัวเอง และการใช้ชีวิตที่สะดวกสบายมากและเพิ่มความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น

1. การผ่าตัดหน้าอกคืออะไร?

การผ่าตัดหน้าอก หรือที่เรียกกันว่า Top Surgery เป็นการผ่าตัดเพื่อเอาเนื้อเยื่อเต้านมและผิวหนังส่วนเกินออก เพื่อให้ได้หน้าอกที่แบนราบและกระชับ โดยนิยมมากในกลุ่มทอมหรือบุคคลข้ามเพศ รวมไปถึงผู้ที่มีรสนิยมชอบหน้าอกแบบแบนราบ


การผ่าตัดนี้จึงถือเป็นขั้นตอนสำคัญในการยืนยันอัตลักษณ์และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งในแง่ร่างกายและจิตใจของผู้ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงตนเองให้ตรงกับสิ่งที่รู้สึกภายในอย่างแท้จริง

Cosemetica Clinic BG

2. รูปแบบเทคนิคแผล

ในการผ่าตัด Top Surgery มีเทคนิคแผลที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับขนาดหน้าอกเดิมและผลลัพธ์ที่ผู้รับบริการต้องการ เทคนิคที่ได้รับความนิยมมีดังนี้

1. เทคนิคแผลตัวโอ (Peri-areolar Technique)

เทคนิคแผลตัวโอ (Peri-areolar Technique) คือ การกรีดแผลบริเวณลานนมเป็นลักษณะตัวโอ (O) ดังนั้นแผลจะอยู่บริเวณรอบปานนม เหมาะสำหรับคนที่มีหน้าอกเล็กขนาดไม่เกินคัพ A แต่มีปัญหาเรื่องลานนมใหญ่ เทคนิคนี้ไม่สามารถย้ายตำแหน่งหัวนมได้


ข้อดี

-แผลเล็ก

-โอกาสหัวนมตายน้อย

-แผลหายไว


ข้อเสีย

-อาจเกิดจุดนมห้อยเนื่องจากผิวไม่กระชับ ในรายที่หัวนมอยู่ต่ำวิธีนี้จะไม่สามารถย้ายหัวนมขึ้นให้สูงได้

(ปกติหัวนมผู้หญิงจะอยู่ต่ำ และอยู่ตรงกลางมากกว่าผู้ชายมาก)

-มีโอกาสเต้านมยุบตัวได้ในอนาคต เนื่องจากแผลผ่าตัดขนาดเล็ก

-มีโอกาสเลือดออกได้มากขึ้น เนื่องจากไม่สามารถหยุดเลือดได้ทั้งหมด

-มีโอกาสเกิดอาการบวมหลังผ่าตัด (ประมาณ 1 เดือน) เพื่อให้ผิวกระชับ และจะต้องออกกำลังกายเพื่อกระชับกล้ามเนื้อหน้าอก

-มีโอกาสเกิดรังผิวบริเวณหัวนมที่เป็นแผลเปลือยได้


2. เทคนิคแผลตัวยู (Keyhole Technique)

เทคนิคแผลตัวยู (Keyhole Technique) คือ การกรีดแผลบริเวณลานนมเป็นลักษณะตัวยู (U) ดังนั้นแผลจะซ่อนอยู่ใต้ลานนมจนแทบไม่เห็นแผล เหมาะสำหรับคนที่มีหน้าอกและลานนมเล็กขนาดไม่เกินคัพ A เทคนิคนี้ไม่สามารถย้ายตำแหน่งหัวนมได้



ข้อดี

-แผลเล็ก

-โอกาสหัวนมตายน้อย

-แผลหายไว


ข้อเสีย

-อาจเกิดจุดนมห้อยเนื่องจากผิวไม่กระชับ ในรายที่หัวนมอยู่ต่ำวิธีนี้จะไม่สามารถย้ายหัวนมขึ้นให้สูงได้

(ปกติหัวนมผู้หญิงจะอยู่ต่ำ และอยู่ตรงกลางมากกว่าผู้ชายมาก)

-มีโอกาสเต้านมยุบตัวได้ในอนาคต เนื่องจากแผลผ่าตัดขนาดเล็ก

-มีโอกาสเลือดออกได้มากขึ้นเนื่องจากไม่สามารถหยุดเลือดได้ทั้งหมด

-มีโอกาสเกิดอาการบวมหลังผ่าตัด (ประมาณ 1 เดือน) เพื่อให้ผิวกระชับ และจะต้องออกกำลังกายเพื่อ

กระชับกล้ามเนื้อหน้าอก

-มีโอกาสเกิดรังผิวบริเวณหัวนมที่เป็นแผลเปลือยได้

3. เทคนิคแผลมินิ (Mini-Mastectomy Technique)

เทคนิคแผลมินิ (Mini Technique) คือ การกรีดแผลบริเวณใต้ราวนมสั้นๆ 10-15 เซนติเมตรแล้วแต่สรีระของเต้านมรายบุคคล เทคนิคนี้เหมาะสำหรับคนที่มีหน้าอกเล็กขนาดไม่เกินคัพ B หน้าอกไม่หย่อนคล้อย และตำแหน่งหัวนมเดิมไม่อยู่ต่ำกว่าปกติ เนื่องจากเทคนิคนี้ไม่สามารถย้ายตำแหน่งหัวนมได้



ข้อดี


-แผลสั้น

-โอกาสหัวนมตายน้อย

-เลือดออกน้อยกว่า

-เนื่องจากสามารถห้ามเลือดได้กับบริเวณ

-ผิวหนังอกที่มีหลาน้อยกว่าด้านล่าง


ข้อเสีย


-มีรอยแผลผ่าตัดราวนมประมาณ 10-15 เซนติเมตร

-แผลหายช้ากว่า

-ไม่สามารถย้ายตำแหน่งหัวนมได้

-หากต้องการลดขนาดหัวนมและลานนมจะมีแผลเป็นที่หัวนมและลานนมเพิ่ม

รวมไปถึงมีโอกาสหัวนมตายสูงกว่า

4. เทคนิคตัดยาวแผลไม่ต่อกัน (Double Incision with Separated Scars Technique)

เทคนิคตัดยาวแผลไม่ต่อกัน (Double Incision with Separated Scars Technique) คือ การกรีดเอาเต้านมทั้งหมดออก เหมาะสำหรับคนที่มีหน้าอกขนาดใหญ่ หน้าอกหย่อนคล้อย เทคนิคนี้สามารถย้ายหัวนมให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมได้



ข้อดี


-สามารถตัดเต้านมได้ทั้งหมด

-ผิวยกหย่อนคล้อยน้อยกว่า

-เลือดออกน้อยกว่า เนื่องจากสามารถห้ามเลือดได้ทั่วบริเวณ

-หัวนมและลานนมอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมกับเพศ

-ใช้เวลาพักอกน้อยกว่า เนื่องจากหลังจากตัดแล้วผิวหน้าอกจะกระชับทันที



ข้อเสีย


-มีรอยแผลเป็นยาว

-แผลหายช้ากว่า

-มีโอกาสที่หัวนม และลานนมจะตายได้สูงกว่า (ปกติหัวนม และลานนมมีโอกาสตายได้ 10%)


5. เทคนิคตัดยาวแผลต่อกัน (Double Incision with Connected Scars Technique)

เทคนิคตัดยาวแผลต่อกัน (Double Incision with Connected Scars Technique) คือ การกรีดเอาเต้านมทั้งหมดออก เหมาะสำหรับคนที่มีหน้าอกขนาดใหญ่ หน้าอกหย่อนคล้อย เทคนิคนี้สามารถย้ายหัวนมให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมได้




ข้อดี


-สามารถตัดเต้านมได้ทั้งหมด

-ผิวยกหย่อนคล้อยน้อยกว่า

-เลือดออกน้อยกว่า เนื่องจากสามารถห้ามเลือดได้ทั่วบริเวณ

-หัวนมและลานนมอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมกับเพศ

-ใช้เวลาพักอกน้อยกว่า เนื่องจากหลังจากตัดแล้วผิวหน้าอกจะกระชับทันที



ข้อเสีย


-มีรอยแผลเป็นยาว

-แผลหายช้ากว่า

-มีโอกาสที่หัวนม และลานนมจะตายได้สูงกว่า (ปกติหัวนม และลานนมมีโอกาสตายได้ 10%)

6. เทคนิคแผล Mastoperfect (Buttonhole Technique)

เทคนิคแผล Mastoperfect (Buttonhole Technique) คือ การกรีดเอาเนื้อนมทั้งหมดออกโดยที่ไม่ตัดเส้นประสาทที่เชื่อมต่อกับหัวนมออก เหมาะสำหรับคนที่มีหน้าอกขนาดใหญ่ หน้าอกหย่อนคล้อย เทคนิคนี้สามารถย้ายหัวนมให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมได้แต่ยังคงเก็บเส้นประสาทความรู้สึกของหัวนมเอาได้ดีกว่าเทคนิคแผลยาว


ข้อดี


-มีรอยแผลเป็นสั้นและซ่อนอยู่ในใต้ราวนม

-แผลหายเร็วกว่า

-ใช้เวลาพักฟื้นน้อยกว่า

-สามารถตัดเนื้อเต้านมได้ทั้งหมด

-ผิวยกกระชับขึ้น

-มีเลือดออกน้อยกว่า เนื่องจากสามารถห้ามเลือดได้ทั่วบริเวณ

-หัวนมและลานนมอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม

-มีโอกาสหัวนมตายน้อยมาก 1-2%


ข้อเสีย


-มีรอยแผลเป็นยาว

-ใช้เวลาผ่าตัดนานกว่าเล็กน้อย

7. เทคนิคแผล Fish-Tail (Lateral Extended Double Incision)

เทคนิคแผล Fish-Tail (Lateral Extended Double Incision) คือ การกรีดเอาเต้านมทั้งหมดออก เหมาะสำหรับคนที่มีหน้าอกขนาดใหญ่ หน้าอกหย่อนคล้อยและมีนมน้อยส่วนเกิน เทคนิคนี้สามารถย้ายหัวนมให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมได้



ข้อดี


-สามารถตัดเต้านมได้ทั้งหมด

-ผิวยกหย่อนคล้อยน้อยกว่า

-เลือดออกน้อยกว่า เนื่องจากสามารถห้ามเลือดได้ทั่วบริเวณ

-หัวนมและลานนมอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมกับเพศ

-ใช้เวลาพักอกน้อยกว่า เนื่องจากหลังจากตัดแล้วผิวหน้าอกจะกระชับทันที

-เก็บเนื้อข้างที่ค้อยเป็นถุงและเนื้อใต้รักแร้ที่เป็นถุงได้เกือบทั้งหมด ทำให้รูปร่างดู Fit & Firm


ข้อเสีย


-มีรอยแผลเป็นยาว

-แผลหายช้ากว่า

-มีโอกาสที่หัวนม และลานนมจะตายได้สูงกว่า (ปกติหัวนม และลานนมมีโอกาสตายได้ 10%)

-มีรอยแผลเป็นยาว จากบริเวณใต้ราวนมไปถึงใต้รักแร้

-มีโอกาสน้ำเหลืองคั่งบริเวณใต้รักแร้

3. ผลลัพธ์ที่คาดหวังได้

หลังจากการผ่าตัดหน้าอก คนไข้สามารถคาดหวังผลลัพธ์ดังนี้

  • หน้าอกแบนราบ ดูเป็นธรรมชาติ
  • รู้สึกมั่นใจขึ้น สามารถสวมใส่เสื้อผ้าได้หลากหลาย
  • บุคลิกภาพที่ดีขึ้น ไม่ต้องกังวลเรื่องสเตย์หรือการรัดหน้าอกอีกต่อไป


คุณ เนส

"เมื่อก่อนต้องรัดสเตย์ตลอดเลย รู้สึกอึดอันไม่สบายตัว แต่ตอนนี้ไม่ต้องรัดสเตย์อีกแล้วใส่เสื้อผ่าสบายขึ้นแยอะ"

คุณเรย์

"จากวันที่ไม่กล้าใส่เสื้อเปิดอก วันนี้รู้สึกภูมิใจที่ได้ใส่เปิดอกอย่างมั่นใจ"

คุณพอตเตอร์

"
เสื้อยืดตัวไหนก็ใส่ได้ ไม่ต้องกังวลอะไรอีกแล้ว ทุกครั้งที่ก้าวออกจากบ้านมั่นใจในตัวเองสุดๆ"

เตรียมตัวยังไง?


การเตรียมตัวที่ดีสิ่งสำคัญของความสำเร็จ การตอนการเตรียมความพร้อมของคุณจะเริ่มต้นตั้งแต่การปรึกษาครั้งแรกไปจนถึงวันผ่าตัด

  • การประเมินและวางแผนโดยศัลยแพทย์: ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของเราจะทำหน้าที่ดูแลคุณแบบครบวงจร ตั้งแต่การประเมินสุขภาพโดยรวม, การตรวจร่างกายที่จำเป็น, การวางแผนการผ่าตัดที่เหมาะสมกับคุณที่สุด ไปจนถึงการให้คำแนะนำด้านโภชนาการเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับชีวิตใหม่หลังผ่าตัด


  • การเตรียมตัวด้านอาหารและยา: งดยาหรือสมุนไพรที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด 1 สัปดาห์ / ห้ามสูบบุหรี่ หรือบุหรี่ไฟฟ้า แอบกอฮอล์ ก่อนและหลังผ่าตัด


  • การเตรีอมตัวด้านพฤติกรรมก่อนผ่าตัด: เพื่อช่วยลดไขมันพอกตับให้น้อยลง และลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน



  • 1 วันก่อนผ่าตัด: เริ่มรับประทานอาหารเหลวใสตามคำแนะนำของคลินิก งดน้ำและอาหารอย่างน้อย 8 ชั่วโมงก่อนผ่าตัด เพื่อความปลอดภัยระหว่างการดมยาสลบ

4. คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

เวลาผ่าตัดหน้าอกนานหรือไม่?
: ใช้เวลาในการผ่าตัดประมาณ 2-3 ชั่วโมง โดยเวลาที่ใช้จะขึ้นอยู่กับเทคนิคที่คนไข้ได้รับ รวมไปถึงน้ำหนักตัวและขนาดหน้าอกของคนไข้ก็มีผลต่อเวลาในการผ่าตัดด้วยเช่นกัน
ไม่ต้องนอนค้างคืนจริงหรือไม่?
: หลังผ่าตัดหน้าอกสามารถกลับบ้านได้เลยไม่ต้องนอนค้างคืน เพียงแต่ว่าหลังจากการผ่าตัดต้องได้รับการพักฟื้นที่ห้อง recovery ก่อนประมาณ 1-2 ชั่วโมงหรือมากกว่า ตามแพทย์พิจารณา และหากแพทย์พิจารณาว่าร่างกายคนไข้อยู่ในสภาวะปกติแล้วก็สามารถกลับบ้านได้
ตัดไหมหน้าอกเมื่อไหร่?
: ปกติแล้วจะตัดไหมหัวนมและหน้าอก 14 - 21 วันหลังผ่าตัด
ตัดหน้าอกต้องพบจิตแพทย์หรือไม่?
: ควรพบจิตย์แพทย์
ตัดหน้าอกทำให้ไม่เป็นมะเร็งเต้านมจริงหรือไม่?
: การตัดหน้าอกช่วยลดมะเร็งเต้านมได้จริงในรายที่ไม่มีมะเร็งเต้านมมาก่อน อย่างไรก็ตามหากยังมีรังไข่อยู่ควรต้องตรวจเต้านมทุกปีเช่นเดิมหลังตัดเต้านมไปแล้ว
ใช้เวลาพักฟื้นนานกี่วัน?
: แล้วแต่สภาพร่างกายแต่ละบุคคล โดยทั่วไปประมาณ 1 วันก็สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ

5. ทำไมต้องผ่าตัดกับเรา?

การตัดสินใจครั้งสำคัญนี้ ควรเลือกสิ่งที่มั่นใจและดีที่สุดสำหรับตัวคุณ ที่ Cosmetica Clinic เราไม่ได้มอบแค่การผ่าตัด แต่เรามอบ "ความมั่นใจในทุกย่างก้าว" ของการเดินทางสู่ชีวิตใหม่ของคุณ


ทีมแพทย์เฉพาะทางที่ดูแลคุณดุจคนในครอบครัว: คุณจะได้รับการดูแลโดยทีมศัลยแพทย์ผู้มีประสบการณ์สูง ซึ่งเข้าใจลึกซึ้งทั้งในด้านเทคนิคการผ่าตัดและสภาพจิตใจของผู้ที่ต้องต่อสู้กับโรคอ้วน ร่วมกับทีมวิสัญญีแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านการดมยาสลบสำหรับผู้ป่วยโรคอ้วนโดยเฉพาะ และทีมพยาบาลที่พร้อมดูแลคุณอย่างใกล้ชิด เราไม่ได้ดูแลแค่ "เคส" แต่เราดูแล "คุณ"


การดูแลแบบองค์รวม ตั้งแต่ก้าวแรกจนถึงเส้นชัย: การดูแลของเราไม่ได้สิ้นสุดลงเมื่อการผ่าตัดจบ แต่การผ่าตัดคือ "จุดเริ่มต้น" ของการเดินทาง เรามีโปรแกรมการให้ความรู้ก่อนผ่าตัดที่ครอบคลุม และที่สำคัญที่สุดคือ โปรแกรมการติดตามผลหลังผ่าตัดในระยะยาว เราจะเป็นพาร์ทเนอร์ที่คอยให้คำปรึกษา ปรับแผนโภชนาการ และอยู่เคียงข้างคุณจนกว่าจะถึงเป้าหมายและรักษามันไว้ได้อย่างยั่งยืน


6. ติดต่อเรา

หากท่านผู้อ่านบทความนี้มีความสนใจในการผ่าตัดกระเพาะอาหาร ทางเรายินดีต้อนรับให้เข้ามาพูดคุยปรึกษากับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของเรา"อย่ารอให้สุขภาพของคุณต้องส่งใบแจ้งหนี้ราคาแพงในอนาคต"


ปรึกษาฟรี: ติดต่อเราเพื่อนัดหมายปรึกษาฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย ได้เลยวันนี้

แผนที่คลินิก

7. รีวิวและเคสจริง

ภาพ Before-After :

รีวิวจากกลุ่ม Facebook :

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy